โครงการติดตั้งไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งย
รหัสข้อเสนอ: CONSUL-2025-10-3
เสนอให้กรุงเทพมหานครติดตั้งเสาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตามซอยย่อยและทางเดินเท้าในพื้นที่เขตบางบอน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน
รายละเอียดข้อเสนอ
ปัญหาความไม่ปลอดภัยในพื้นที่เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในประเด็นที่ประชาชนร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ซอยย่อย เช่น ซอยเอกชัย 131, ซอยบางบอน 5 และบริเวณทางเท้าริมคลองบางบอน ซึ่งไม่มีแสงสว่างเพียงพอในช่วงกลางคืน ส่งผลให้เกิดเหตุลักทรัพย์ การทะเลาะวิวาท และอุบัติเหตุจากการสัญจรโดยรถจักรยานยนต์อยู่บ่อยครั้ง
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ข้อเสนอนี้เสนอให้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ชุมชนเขตบางบอน โดยเลือกใช้เทคโนโลยีไฟ LED พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ที่สามารถเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวันและเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในช่วงเวลากลางคืน
แนวทางดำเนินการที่เสนอ:
-
สำรวจจุดเสี่ยงและพื้นที่มืดภายในชุมชนร่วมกับสำนักงานเขตบางบอนและผู้นำชุมชน
-
กำหนดจำนวนและตำแหน่งของเสาไฟให้ครอบคลุมพื้นที่สาธารณะ ถนนหลัก–ซอยย่อย และทางเท้า
-
ติดตั้งเสาไฟพลังงานแสงอาทิตย์รุ่นประหยัดพลังงาน โดยใช้วัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศ
-
จัดทำระบบบำรุงรักษาร่วมกับภาคเอกชนหรือองค์กรในพื้นที่ เพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ:
-
ประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัยมากขึ้นในช่วงกลางคืน ลดการเกิดอาชญากรรมและอุบัติเหตุ
-
สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและลดภาระค่าไฟฟ้าภาครัฐในระยะยาว
-
สร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการใช้ทางสัญจรสาธารณะ ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม
-
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของกรุงเทพมหานครในฐานะ “เมืองสีเขียวอัจฉริยะ (Smart Green City)”
-
สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะข้อที่ 7 “พลังงานสะอาดเพื่อทุกคน” และข้อที่ 11 “เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน”
ข้อเสนอเพิ่มเติม: นอกจากการติดตั้งไฟส่องสว่าง ควรพิจารณาการเพิ่มกล้องวงจรปิด (CCTV) ในจุดเสี่ยง และบูรณาการกับระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยของสำนักงานเขตบางบอน เพื่อให้สามารถติดตามและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
ควรมีการจัดทำแผนบำรุงรักษาระยะยาว โดยอาจร่วมมือกับภาคเอกชนหรือวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้ระบบไฟฟ้ายังคงใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและลดภาระการซ่อมบำรุงจากภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว
เป็นแนวทางที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยของชุมชน พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดที่ยั่งยืน เหมาะกับยุคเมืองสีเขียวอย่างแท้จริง
อยากให้มีการติดตามผลและดูแลระบบไฟให้ใช้งานได้ต่อเนื่องด้วยนะคะ เพื่อให้ประโยชน์เกิดขึ้นกับชุมชนในระยะยาวค่ะ